ส่องประวัติ ‘เสือ ดุสิต’ นักเลงสายไหมใจสู้ ฉายาโรบินฮู้ดเมืองไทย

ส่องประวัติ ‘เสือ ดุสิต’ นักเลงสายไหมใจสู้ ฉายาโรบินฮู้ดเมืองไทย

ประวัติ ‘เสือ ดุสิต‘ นักเลงดังย่านสายไหม เพื่อนสนิทแม็ค อนุสาวรีย์ นักเลงใจกล้าที่มีประวัติชีวิตโชกโชน ผู้มาพร้อมฉายาโรบินฮู้ดเมืองไทย นับว่าเป็นตัวท็อปวงการนักเลงไทยสำหรับ เสือ ดุสิต หรือ สัมฤทธิ์ ริมเถื่อน เจ้าของฉายาโรบินฮู้ดเมืองไทย ที่เคยทำให้วงการตำรวจต้องขวัญผวามาแล้วครั้งหนึ่ง เสือดุสิตคือใคร นักเลงดังย่านสายไหม แท้จริงแล้วอาจเป็นพ่อพระใจบุญ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก เสือ ดุสิต ให้มากขึ้น

เปิดที่มา ประวัติ ‘เสือ ดุสิต’ นักเลงพ่อพระ เพื่อนสนิท ‘แม็ค อนุสาวรีย์’

เสือ ดุสิต มีชื่อจริงว่า สัมฤทธิ์ ริมเถื่อน เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2529 ปัจจุบันอายุ 36 ปี เรียนจบจากสถาบันเทคโนโลยีดุสิต เป็นนักเลงอยู่ในเขตสายไหม โด่งดังมาจากการบุกชิงเงินจากบ่อนไฮโลเมื่อปี พ.ศ. 2562 โดยสาเหตุของการบุกปล้นบ่อนพนันในครั้งนั้น มาจากความต้องการที่จะเอาเงินพนันคืน 20,000 บาท เนื่องจาก เสือ ดุสิตคิดว่าถูกบ่อนโกง

สำหรับเหตุการณ์บุกปล้นของเสือดุสิตในครั้งนั้น ส่งผลให้นายตำรวจ 4 คนถูกเด้งไปปฏิบัติราชการที่อื่น ฐานไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ปล่อยให้มีบ่อนการพนันเกิดขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ชื่อเสียงของ เสือ ดุสิต ยังเป็นรู้จักในวงการสังเวียนมวยลูกผู้ชาย FIGHTCLUB THAILAND เนื่องจากเสือดุสิตได้เคยห้ำหั่นกับคู่ต่อสู้มาแล้วหลายคน

นอกจากนี้เสือดุสิตยังเป็นคู่ปรับคู่แค้นกับ ‘เสี่ยโป้’ หรือ นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ อีกด้วย ทั้งคู่มักจะเปิดไลฟ์สดด่ากันไปมาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็จะพบว่าการวางตัวของเสือดุสิตนั้นดีกว่าเสมอ แม้จะถูกเรียกว่านักเลงแต่เสือดุสิตก็ไม่เคยมีพฤติกรรมฉาวโฉ่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

อีกทั้งหลังจากที่เหตุการณ์ปล้นบ่อนไฮโลในตำนาน เสือดุสิตก็ยังสามารถสร้างอิทธิพลของตัวเองขึ้นมาได้ ถึงขนาดที่ว่าเอ่ยปากเตือนไม่ให้พวกค้ายามาขายเคนมผงแถวบ้านได้ ทั้งนี้ เสือ ดุสิต ก็ยังเคยออกโรงปกป้องคุณป้าเจ้าของสุนัขท่านหนึ่งที่ถูกคนร้ายยิงปืนขู่ พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่าจะให้การคุ้มครองแก่ชาวสายไหมไม่ให้มีอันธพาลมารังแกใครได้

แต่ด้วยความที่ เสือ ดุสิต ยังคงมีภาพลักษณ์ของนักเลงติดตัวอยู่ จึงทำให้เขามักถูกคนหลายกลุ่มกล่าวหาว่าเป็นขยะสังคมอยู่เสมอ โดยในเหตุการณ์แว้นสายบุญจัดแข่งรถบนภูทับเบิก เสือ ดุสิต ก็ถูกเหมารวมไปด้วยว่าเป็นแกนนำจัดการแข่งขันดังกล่าว ทั้งนี้เสือดุสิตก็ได้ออกมาปฏิเสธและขอโทษสังคมแทนผู้กระทำผิด พร้อมวอนให้ประชาชนเข้าใจว่าเขาไม่ใช่ขยะสังคม พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนดี

ล่าสุดเมื่อต้นปี 2564 ทางด้านเสือ ดุสิต ก็ได้แสดงให้สังคมเห็นแล้วว่า เขากลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้ว แม้จะยังคงติดภาพของอันธพาลป่วนเมืองในสายตาของใครหลาย ๆ คนอยู่ โดยเสือดุสิตก็ได้พาพรรคพวกเดินทางไปแจกเงินและข้าวสารช่วยเหลือคนตาบอดที่บ้านถูกไฟไหม้ในจังหวัดนนทบุรี

คนเราแม้จะเคยทำผิดพลาดมาก่อน แต่หากยอมรับผิดและยอมรับโทษในสิ่งตนกระทำลงไป หากเขาพร้อมที่จะกลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ สังคมก็ควรให้โอกาสครั้งที่ 2 เพราะไม่เคยมีใครที่ไม่ทำผิดพลาดมาก่อน ดังตัวอย่างของนักเลงไทยใจบุญคนนี้ “เสือ ดุสิต”

รวบสองผู้ต้องหาสำคัญเกี่ยวข้องกับ คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ปี 58

เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบสองผู้ต้องหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ปี 58 ที่ทางเจ้าหน้าที่พบชาวโรฮิงญาถูกฝังกว่า 30 ชีวิต พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร ได้แถลงว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถยืนยันการจับกุมตัวสองผู้ต้องหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ปี 58 ที่เจ้าหน้าที่พบศพชาวโรฮิงญากว่า 30 ศพถูกฝังไว้ บริเวณแคมป์คนงานกลางป่าบนเขาแก้ว ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อปี 2558

เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาสำคัญทั้งสองคนได้ที่ ได้ที่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนพระรามเก้า แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยทั้งคู่ได้หลบหนีหมายจับโดยการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล และใช้หนังสือเดินทางประเทศมาเลเซีย เดินทางเข้ามายังประเทศไทยอีกครั้ง

สำหรับรายละเอียดผู้ต้องหาคดีโรฮิงญา ปี 58 มีดังนี้

1. นายหม่อง ถ่าน ทุน สัญชาติเมียนมา หรือ นายซุลกิฟลี บิน อับดุลลาห์ (Zulkifli Bin Abdullah) สัญชาติมาเลเซีย ถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 308/2558 ลง 22 มิ.ย.58 ความผิดฐาน สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี

ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ และหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 477/2558 ลง 27 ส.ค.58 ความผิดฐาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

2. นางราฮานา เจ๊ะสะมะแอ อายุ 42 ปี ชาว ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือ นาง Rohano Binti Mat said (โรฮานา บินติ มาต ซาอิด) ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 307/2558 ลง 22 มิ.ย.58 โดยกล่าวหาว่า สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ และ หมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 476/2558 ลง 27 ส.ค.58 โดยกล่าวหาว่า สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป